สวัสดีครับ
หลายสัปดาห์ก่อน ผมเผยแผ่ ไอเดีย วาบความคิด เรื่องการหันกลับมา เจริญ สมาธิ ปฏิบัติสมาธิกันดีกว่า เพราะเมื่อเราทำอย่างตั้งใจไปเรื่อยๆ มีสติ พร้อม วันหนึ่งต้องมีความก้าวหน้าในระดับใด ระดับหนึ่งเป็นแน่แท้ จริงไหมครับ จนกว่าจะสิ้นลมหายใจไปจากชาตินี้
การเขียนแบบนี้ไม่ได้หมายความว่า ให้เบื่อโลก ใช้ชีวิตไปอย่างไรก็ได้ แต่ให้ทำสมาธิไว้ ไม่ใช่เลยครับ ความหมายคือ ให้มีชีวิตในชาตินี้ ที่ดี มีสติ ไม่ประมาท และ มีการปฏิบัติสมาธิไปพร้อมๆ กันด้วย คือ เปลี่ยนตัวเอง ใหม่ถอดด้าม ให้ ดีทั้งโลกนี้ (ให้ดีที่สุด) ขณะที่ ก็จองตั๋ว สุขคติ ในโลกหน้าไว้พร้อมๆ กัน นั่นเอง คือ ดี คูณ ดี ได้ ดี ยกกำลัง สอง แบบนั้น
การปฏิบัติสมาธิ ทำให้ เรากลายเป็นอะไรได้หลายอย่างเช่น
1.เพียงลงมือปฏิบัติสมาธิ ก็ได้บุญ ได้อานิสงฆ์ มากมาย มหาศาลแล้ว
2.ปฏิบัติไปได้สมาธิขั้นพื้นๆ อย่าง ฌาน 1 ก็มีที่หมายเป็น พรหม แน่นอน
3.ได้ฌานสูงกว่านั้น ก็ยิ่งได้เป็นพรหม ชั้นสูงขึ้นไปอีก
4. หากปฏิบัติไปในทาง วิปัสสนา หากไม่บรรลุธรรมขั้นสุดยอด ก็มี ชั้นพรหมเฉพาะเป็นที่ ประทับ
5. ในทางวิปัสนา ปฏิบัติได้สูงสุด ก็ ได้บรรลุพระนิพพาน
สรุปคือ การปฏิบัติสมาธินั้น มีแต่สิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นกับเราทั้งนั้น มองไม่เห็นว่าจะไม่ดีตรงไหน อยู่ที่เราว่าจะเลือกทำจริงจังได้เพียงใด
เอาล่ะวันนี้ว่ากันเรื่องทางโลกครับ หากทำดังขั้นต้นได้แล้ว อยู่ในกระแส คือ ทำได้ เป็นประจำ จนเป็นนิสัยแล้ว ก็เชื่อว่า ปิดทางอบายได้ล่ะในชาตินี้ ยิ่งคนมีอายุน้อยทำก็ได้เปรียบนะครับ เพราะคุณมีเวลาทำไปอีกนาน ก็คือได้สั่งสมบุญบารมีไปอีกนาน เลย คนที่อายุมากก็อย่าท้อ เพราะหลายท่านบรรลุะธรรมขั้นสูงได้ในเวลาไม่นานก็ยังมี เอาล่ะ อายุไม่เกี่ยงลงมือ ทำเป็นพอครับได้บุญแน่ๆ
ผมเรียกแนวคิด การสั่งสมบุญบารมีจากการนั่งสมาธิ แล้วนำเราไปสู่ ภพ ภูมิ ที่ดีกว่ามาก นี้ว่า
หนึ่งหยดน้ำ แลกกับมหาสมุทรทั้งโลก ครับ
คุณว่าคุ้มไหม ลองกลับไปอ่านบทความเก่าๆ ของผม ในรายละเอียดนะครับ
สำหรับทางโลก ก็แนวคิดเดียวกัน เคยได้ยินคตินี้ไหม
ลำบากตอนต้น สบายตอนปลาย
เมื่อย้อนกลับมาพิจารณา แล้ว มันก็คล้ายกับ แนวคิอ หนึ่งหยดน้ำ ของผมนั่นล่ะครับ ดังนั้น การจะเป็นคนที่ ทำสมาธิ แล้ว ทำสิ่งที่เรียกว่า หนึ่งหยดน้ำ แลกมหาสมุทรได้นั้น เราต้อง จัดการชีวิตในชาตินี้ให้ดีที่สุดก่อนด้วย นั่นคือ ยอมที่จะ ลำบากตอนต้น เพื่อ สบายตอนปลาย
จริงๆ แล้วจากประสบการณ์ในชีวิต ใครก็ตามที่ยอมลำบากตอนต้น จะเริ่มสบายๆ ภายหลัง กันทั้งนั้น ซึ่งบางที ก็เดิอนต่อไป ปีต่อไป นี่เอง ไม่ต้องรอนานๆ หรอกครับ หรือ จะเปลี่ยนเป็น
ยอมลำบากตอนต้น เพื่อ สบายตอนหน้า ก็ยังได้
ดังนั้น เราควรมีนิสัย พุ่งเข้าใส่ความลำบาก และ สั่งสม สิ่งทีควรสั่งสม อดเปรี้ยวไว้กินหวาน นั่นคือ ยอมลำบากหน่อย ในช่วง ไม่กี่เดือน กี่ปี แล้ว ถ้าเรามีวาสนา อายุยืนยาว ก็ค่อยมาเก็บเกี่ยวดอกผลในตอนนั้น ตอนที่ >>>
เวลาในอนาคต กลับกลายมาเป็น ปัจจุบันของเรา
ผู้ปฏิบัติธรรม จึงควรเป็นผู้ได้สติหยั่งรู้ สภาพธรรม หลังจากได้เริ่มปฏิบัติสมาธิ คือ รู้ว่าควรมีสติอยู่กับปัจจุบัน และ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เมื่อเป็นเช่นนั้น อนาคตที่ดีที่สุดในชาตินี้ ก็จะเป็นของเรา ด้วยสตินั้น และ กำลังของสมาธิ ที่ช่วยเราในการสั่งสมบุญบารมี จะนำเราไปยัง เหตุการณ์ และ แหล่งที่ ที่ดีที่สุดสำหรับเรา เอง โดยไม่ต้องกังวลใจอะไรเลย
ขอให้ทุกท่าน มีความสุข ในการปฏิบัติสมาธิ เพื่อโลกนี้ และ โลกหน้า
สวัสดีครับ
คุณบอลล์ :0)
No comments:
Post a Comment